โรคตับแข็งนั้นมีสาเหตุหลักๆคือ
การเกิดโรคตับแข็งอยู่ได้กี่ปี และสาเหตุที่เกิดโรคมีหลายสาเหตุ แต่สาเหตุที่ส่งผลต่อการทำงานของตับและเป็นสาเหตุที่นำไปสู่การเป็นโรคตับแข็งนั้นมีสาเหตุสำคัญๆที่มักทำให้เกิดโรคตับแข็งนั้นมีอยู่ 3 สาเหตุ คือ
- การดื่มสุราดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไปต่อต่อกันนานหลายปี
- เป็นโรคเรื้อรังจากการติดเชื้อของตับ โดยเฉพาะไวรัสตับอักเสบบี และโรคไวรัสตับอักเสบซี
- ภาวะไขมันพอกตับที่ไม่ได้มีสาเหตุมาจากแอลกอฮอล์ เช่น ภาวะไขมันพอกตับที่เกี่ยวข้องกับโรคอ้วนหรือโรคเบาหวาน
ส่วนสาเหตุรองจาก 3 สาเหตุที่บอกไปนั้น มีสาเหตุอื่นๆที่สามารถทำให้เป็นโรคตับแข็งได้อีกคือ
การกินยาหรือรับประทานยาหรือสมุนไพรบางชนิดเป็นเวลานานๆ การได้รับสารพิษหรือสารเคมี การติดเชื้อปรสิต เกิดสภาวะหัวใจล้มเหลวฉียบพลันติดต่อกันหลายครั้งจนทำให้น้ำไหลเข้าสู้ตับ โรคทางพันธุ์กรรม เช่น โรคซีสติกไฟโบรซีส หรือโรคหลอดลมพอง (Cystic Fibrosis) โรคพันธุกรรมเมตาบอลิกที่ไม่สามารถสะสมไกลโคลเจนไว้เป็นพลังงานในร่างกายได้ (Glycogen Storage Diseases) ถุงลมโป่งพองจากการขาดอัลฟ่า-โรคที่ทำให้เกิดสภาวะท่อน้ำดีอุตตัน เช่น โรคบิลิอารีอะทรีเซีย (Biliary Atresia)
ในทารกแรกเกิดที่ไม่มีท่อน้ำดีตั้งแต่กำเนิด และโรคตับแข็งที่ไม่ทราบสาเหตุ ในทุกวัย โรคอื่นๆ เช่น โรควิลสัน (Wilson’s Disease) ที่มีความผิดปกติของตับที่มีการสะสมทองแดงมากเกินไป ภาวะเหล็กเกินหรือฮีโมโครมาโตซิส
โดยทั่วไปโรคตับแข็งในระยะแรกอาจจะไม่พบความผิดปกติในร่างกาย
แต่มีบางรายที่ครวจพบโรคตับแข็งในระหว่างที่ตรวจโรคประจำปีทั่วไป แพทย์จะมีการตรวจสอบเบื้อต้น อาการผิดปกติ หรือพฤติกรรมการดื่มสุราหรือแอลกอฮอล์ และตรวจร่างกายทั่วไปโดยการคลำดูขนาดและตำแหน่งของตับว่าปกติหรือไม่และเป็นการประเมินเพื่อที่ว่าจะให้มีการตรวจพิเศษอื่นๆ เพิ่มเติมตามดุลพินิจของแพทย์อีกด้วย